เมาส์

Luffy - One Piece

หน้าปก

หน้าปก
++ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Monruedeening.blogspot.com++

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


William James Sidis  บุคคลที่ฉลาดที่สุดในจักรวาล







          Sidis เป็นชาวรัสเซีย เกิดวัน April Fool's Day หรือ 1 เมษายน ค.ศ.1898 วันที่โลกได้สัมผัสกับบุคคลที่ถือว่า "ฉลาดทีสุดในจักรวาล" จนพวกสมาคมทางด้าน IQ ให้ฉายาว่า "Universal Genius" คืออาจจะต้องให้โลกแตกเสียก่อนถึงจะเจอคน IQ สูงอย่างนี้อีกซักคน

ซึ่ง IQ ของเขาประมาณอยู่ที่ 260-300 เลยทีเดียว
พ่อแม่ของ Sidis เป็นหมออพยพมาจากรัสเซีย ซึ่งวงศ์ตระกูลสายของพ่อ ของ Sidis จะฉลาดกันมากๆ เขาลือว่า คนตระกูลนี้สามารถคิดทำความเข้าใจสิ่งต่างๆได้เร็วกว่านักวิชาการเก่งๆถึง 10 เท่า พ่อของ Sidis เป็นนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น แต่ตอนหลังชื่อเสียงหดหายเพราะชอบโม้ว่า เขามีเคล็ดลับในการสอนคนรอบข้างให้ฉลาดขึ้นจนเป็นอัจฉริยะกันได้ และยังมีเรื่องเสียๆหายๆอีกหลายเรื่อง

แน่นอน เขาก็บอกว่า ทั้งลูกและภรรยาของเขาเป็นผลผลิตจากวิธีการสอนของเขาเอง

ความอัจฉริยะของเค้าฉายแววตั้งแต่เด็ก

-เมื่ออายุ 1 ขวบ สะกดคำทุกคำได้ถูกต้อง

-เมื่อ อายุ 1 ขวบครึ่ง ก็สามารถอ่าน หนังสือพิมพ์ New York Times ได้

-เมื่ออายุ 2 ขวบ ...ก็สามารถเรียนรู้ภาษาลาติน ด้วยตัวเอง
-เมื่อ 3 ขวบ สามารถพิมพ์ดีดแล้ว ส่งจดหมายสั่งของเล่นมาให้ตัวเอง

-เมื่อ 4 ขวบ ...สามารถอ่านนิยายภาษาลาติน จากนิยายเรื่องCaesar's Gallic Wars


มาด้านการเรียน

เรียนวิชาตรรกศาสตร์ของอริสโตเติล ตอนอายุ 6 ขวบ

ตอน 6 ขวบนี้แหละที่ Sidis เริ่มเรียนภาษารัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮิบรู ตุรกี(Turkish) อาร์เมเนียน

และช่วงเดียวกันนี้ เขาเริ่มเรียน Gray's Anatomy พวกกายวิภาค โดยเข้า Grammar Schoolและจบ ในเวลา 7 เดือน


พออายุ 8 ขวบเริ่มเป็นอภิชาตบุตร  เพราะเก่งคณิตศาสตร์กว่าพ่อและ สามารถจำทุกอย่างที่อ่านได้


ในตอนนี้เขาสามารถเขียนหนังสือเกี่ยวกับ Anatomy และ Astronomy ออกมา ทั้งหมด 4 เล่ม
และสามารถพูดภาษาได้ 10 ภาษา อย่างคล่องแคล่ว!!

ในด้านภาษาการเรียนรู้ของเค้า ถึงจุดสุดยอด ที่ว่า นับจนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครในโลกสามารถทำได้อย่างตลอดกาล คือ การเรียนรู้ ภาษา ภายใน 1 วัน (อย่างคล่องแคล่วซะด้วย) และ ในภายหลัง เขาสามารถ พูด สนทนา เขียน อ่าน ได้อย่างคล่องแคล่ว มากถึง 200ภาษา  (พูดได้ 200 ภาษา)

เมื่ออายุ 7 ขวบ สอบผ่าน Harvard Medical School anatomy exam

ต่อมา เมื่ออายุ 8 ขวบ สอบ entrance exam ของ MIT ผ่าน


เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ Corrected (ตรวจตรา, แย้ง, เห็นข้อผิดพลาด)
ของ Harvard logic professor Josiah Royce's book manuscript:citing โดยบอกว่า "Wrong Paragraphs)

พออายุ 11 ขวบ เป็นผู้ที่เข้าศึกษาที่ harvard อายุน้อยที่สุด

และจบจาก Harvard ในตอนที่เขาอายุ 16

หลังจากนั้นในปีต่อมา ก็เข้ามาศึกษาต่อ Harvard Law School

แต่เหมือนกับว่า ตอนเรียนที่ Harvard เขากลับไม่เป็นอย่างที่ทุกๆคนคาดหวังเอาไว้
เนื่องจากผลการเรียนเค้า อยู่ในระดับ ปกติ ทั้งที่ควรจะดีเลิศ
เขาก่อปัญหา และถูกจับในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดการก่อจราจล

ชีวิตเขาในภายหลังแทบเรียกว่า ล้มเหลว เพราะงานก็ไม่เอา เรียนก็ไม่เรียน
ทั้งๆที่ เป็นบุคคลที่มี IQ สูงและฉลาดที่สุดใน จักรวาล

มีหลายกระแส บอกว่า เป็นเพราะพ่อแม่ของเขาที่ค่อนข้างกดดันเขาในวัยเด็ก
และวัยเด็กเค้าที่ ไม่ได้เล่นสนุกเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป
บางกระแสก็บอกว่า เป็นเพราะเขาฉลาดจนเกินไป และปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้


Sidis ความจริงแล้วเป็นบุคคลที่ฉลาดที่สุดที่โลกเราเคยมีมา

และยังเป็นชายที่มี IQ สูงราวๆ 300 (อันดับ รองลงมาจาก Sidis เป็นผู้หญิงค่ะ IQ 230 ส่วน ไอนสไตน์จะใกล้เคียงกัน ประมาณ 228)

ที่ไอนสไตน์ดังได้ และ เป็นที่จดจำ เพราะชีวิตของเค้า ไม่ได้ล้มเหลวเหมือน Sidisและ ไอนสไตน์ฝากไว้ซึ่งผลงาน ความฉลาดของเขาส่งเสียงดังกัมปนาท เหมือนระเบิดที่ ฮิโรชิม่า และนางาซากิ ซึ่งความจริงแล้ว ไอนสไตน์ไม่เคยสร้างระเบิดสักลูก แต่แทบทุกคนก็จดจำเขาในฐานะเจ้าของทฤษฏีอันเป็นต้นตอ ของระเบิดที่ร้ายแรงที่สุดในโลก ...

Sidis ใช้เวลาในชีวิตให้หมดไปกับการเรียนรู้สารพัดศาสตร์ที่น่าสนใจ

เขาสนใจกระทั่งศาสตร์ลึกลับต่างๆ ตลอดจนการพิสูจน์จิตวิญญาณในมิติอื่น


ส่วนไอน์สไตน์อุทิศ 30 ปีสุดท้ายของชีวิตให้กับ

ทฤษฎีสนามรวม  Umified Field Theory

ด้วยเกรงว่าถ้าไม่ใช่เขา ก็จะไม่มีใครค้นหาความจริงในทฤษฎีนี้พบ


หลายคนพยายามหาคำตอบว่า ทำไม Sidis ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเลย กลับกลายเป็นล้มเหลวด้วยซ้ำ ทั้งที่เป็นคนที่ IQ สูงที่สุดในจักรวาลก็ว่าได้ (จนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครฉลาดเท่านายคนนี้


Sidis เสียชีวิต ตอนอายุได้ 56 ปี ใน ปี ค.ศ. 1923 ขณะที่กำลังเขียนหนังสือเรื่อง The Psychology of the Folk Tale โดยเขามีผลงานตีพิมพ์หนังสือ 17 เล่ม และบทความในนิตยสาร 50 เรื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น